
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมากนับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสนใจเรื่องสุขอนามัยมากขึ้น ซึ่งบริษัท Hagleitner Hygiene International GmbH (Hagleitner) ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ให้บริการด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยมาอย่างยาวนาน และครองใจผู้บริโภคมาได้อย่างต่อเนื่อง
.
Hagleitner Hygiene International GmbH (Hagleitner) เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยในประเทศออสเตรีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1971 มีพนักงานกว่า 1,000 คน ส่งออกสินค้าไปยัง 55 ประเทศทั่วโลก และขยายไลน์การผลิตเรื่อยมาจนมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากกว่า 600 ผลิตภัณฑ์ โดยลักษณะของการขายสินค้าของแบรนด์จะเป็นในรูปแบบค้าส่งเท่านั้น
.
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ผ่านการดีไซน์และผลิตที่สำนักงานใหญ่ในประเทศออสเตรีย ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องจ่ายของ Hagleitner เป็นเครื่องจ่ายแบบเซ็นเซอร์ ที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัย โดยเมื่อปี 2014 Hagleitner ได้ผลิตโมเดล “senseMANAGEMENT” ขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยเช็คระดับของของเหลวที่ถูกเติมเข้าไปในเครื่องจ่าย และออเดอร์ของเหลวที่ต้องการใช้เติมในตัวเครื่องจ่ายได้ผ่าน wifi ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Internet of things (IoT) ของบริษัท ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการกับคลังสินค้า และบริหารความพึงพอใจของลูกค้าได้ดีในระดับหนึ่ง
.
เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าคุณภาพสูงได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ทีม Hagleitner จึงเลือกใช้เครื่องฉีดขึ้นรูปพลาสติกทั้งหมด 16 เครื่อง ในการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจ่ายสบู่เหลวทั้งหมด โดยตั้งแต่ปี 2010 ทีม Hagleitner ได้นำซอฟต์แวร์ NX เข้ามาช่วยงานด้าน CAD และนับแต่นั้นเป็นต้นมา สินค้าทุกชิ้นก็ล้วนออกแบบโดยใช้โปรแกรม NX ทั้งหมด
.
ด้วยความที่บริษัทเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง การทำงานร่วมกันในไฟล์ข้อมูลขององค์กร ย่อมมีข้อจำกัดที่ทำให้การทำงานยากขึ้นไปอีก เนื่องจากการแก้ไขไฟล์งาน และแก้ไขแบบจำลองในระหว่างออกแบบที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ส่งผลให้การทำความเข้าใจไฟล์งานแต่ละไฟล์เป็นไปได้ยาก จนบางครั้งก็เสี่ยงต่อการ error ของข้อมูล หรืออาจทำให้ข้อมูลสูญหายเลยก็เป็นได้ การนำ Teamcenter เข้ามาช่วยจัดการไฟล์ข้อมูลให้เป็นระบบ จึงนับว่าตอบโจทย์ที่สุด
.
ทีม Hagleitner ต้องทำการสำรวจตลาด เพื่อหาโซลูชั่นที่เหมาะสมในส่วนงาน PLM อีกทั้งยังต้องการให้คนในทีมเห็นภาพของข้อมูลเดียวกันตลอดทั้งกระบวนการพัฒนาโปรดักส์ ตั้งแต่เริ่มดีไซน์ ไปจนถึงขั้นตอนการผลิตที่ต้องใช้โปรแกรม CAM เข้าช่วย ทั้งยังต้องการให้การตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดาย เพื่อลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็นลง ทั้งยังช่วยให้วิศวกรที่ทำหน้าที่ดีไซน์ชิ้นส่วนต่างๆ สะดวกในการหาข้อมูล และนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้เป็นประโยชน์ในการดีไซน์ได้ด้วย
.
Teamcenter เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้การทำงานของทีม Hagleitner ราบรื่นขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การมีคลัง library ที่เก็บข้อมูลชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวโปรดักส์ไว้ให้ดีไซเนอร์ใช้งานต่อได้ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ซึ่งเมื่อนำ Teamcenter เข้ามาใช้ ช่วยให้ทีมงานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย และนำข้อมูลมาใช้ระหว่างกระบวนการ Product Development ได้สะดวก
.
เมื่อทีม Hagleitner เปลี่ยนมาใช้ระบบของ Teamcenter ในการทำงาน พบว่า ระบบดังกล่าวเปลี่ยนทิศทางการออกแบบโปรดักส์ของ Hagleitner ไปได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้ทีม Hagleitner เลือกใช้ Teamcenter ก็เพราะเป็นโปรแกรมที่ช่วยให้สมาชิกในทีมเข้าถึงข้อมูลที่ต้องใช้ในการทำงานได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ข้อมูลในส่วนงานดีไซน์ ไปจนถึงส่วนงานผลิต อีกทั้งข้อมูลเหล่านั้นยังมีเหตุผลรองรับ เชื่อมั่นได้ในเรื่องความถูกต้อง
.
ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ Teamcenter ยังช่วยให้ทีม Hagleitner สามารถวางแผนการพัฒนาโปรดักส์ได้อย่างราบรื่น โดยมีข้อมูลคอยซัพพอร์ตตลอดเวลา ทั้งยังส่งผลให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของ Product Line ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์เครื่องจ่ายที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยลดต้นทุนในการผลิตได้ด้วย
.
ในอนาคต การใช้ซอฟต์แวร์ร่วมกับองค์กรภายนอก จะเป็นไปในลักษณะของการดึงข้อมูลขององค์กรที่มีการอัพเดทอย่างต่อเนื่อง มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาการใช้ Tooling ต่างๆ ได้ในอนาคต เพราะสามารถดึงเอาข้อมูลด้านการผลิตที่มีการเก็บรวบรวมไว้อย่างเป็นสัดส่วนใน Teamcenter ออกมาใช้ประโยชน์ได้นั่นเอง
.
นับว่า Teamcenter ช่วยให้เกิดการบริหารและจัดการกับชิ้นส่วนต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบ จนนำข้อมูลมาใช้งานต่อได้สะดวก ซึ่งนับว่าช่วยลดขั้นตอนการออกแบบ และลดเวลาการทำงานไปได้พอสมควร ส่งผลให้ทีม Hagleitner สามารถนำเวลาที่เหลือจากการออกแบบ ไปพัฒนาโปรดักส์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ขึ้นได้นั่นเอง
.
Hagleitner Hygiene International GmbH (Hagleitner) เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยในประเทศออสเตรีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1971 มีพนักงานกว่า 1,000 คน ส่งออกสินค้าไปยัง 55 ประเทศทั่วโลก และขยายไลน์การผลิตเรื่อยมาจนมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากกว่า 600 ผลิตภัณฑ์ โดยลักษณะของการขายสินค้าของแบรนด์จะเป็นในรูปแบบค้าส่งเท่านั้น
.
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ผ่านการดีไซน์และผลิตที่สำนักงานใหญ่ในประเทศออสเตรีย ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องจ่ายของ Hagleitner เป็นเครื่องจ่ายแบบเซ็นเซอร์ ที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัย โดยเมื่อปี 2014 Hagleitner ได้ผลิตโมเดล “senseMANAGEMENT” ขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยเช็คระดับของของเหลวที่ถูกเติมเข้าไปในเครื่องจ่าย และออเดอร์ของเหลวที่ต้องการใช้เติมในตัวเครื่องจ่ายได้ผ่าน wifi ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Internet of things (IoT) ของบริษัท ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการกับคลังสินค้า และบริหารความพึงพอใจของลูกค้าได้ดีในระดับหนึ่ง
.
เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าคุณภาพสูงได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ทีม Hagleitner จึงเลือกใช้เครื่องฉีดขึ้นรูปพลาสติกทั้งหมด 16 เครื่อง ในการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจ่ายสบู่เหลวทั้งหมด โดยตั้งแต่ปี 2010 ทีม Hagleitner ได้นำซอฟต์แวร์ NX เข้ามาช่วยงานด้าน CAD และนับแต่นั้นเป็นต้นมา สินค้าทุกชิ้นก็ล้วนออกแบบโดยใช้โปรแกรม NX ทั้งหมด
.
ด้วยความที่บริษัทเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง การทำงานร่วมกันในไฟล์ข้อมูลขององค์กร ย่อมมีข้อจำกัดที่ทำให้การทำงานยากขึ้นไปอีก เนื่องจากการแก้ไขไฟล์งาน และแก้ไขแบบจำลองในระหว่างออกแบบที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ส่งผลให้การทำความเข้าใจไฟล์งานแต่ละไฟล์เป็นไปได้ยาก จนบางครั้งก็เสี่ยงต่อการ error ของข้อมูล หรืออาจทำให้ข้อมูลสูญหายเลยก็เป็นได้ การนำ Teamcenter เข้ามาช่วยจัดการไฟล์ข้อมูลให้เป็นระบบ จึงนับว่าตอบโจทย์ที่สุด
.
ทีม Hagleitner ต้องทำการสำรวจตลาด เพื่อหาโซลูชั่นที่เหมาะสมในส่วนงาน PLM อีกทั้งยังต้องการให้คนในทีมเห็นภาพของข้อมูลเดียวกันตลอดทั้งกระบวนการพัฒนาโปรดักส์ ตั้งแต่เริ่มดีไซน์ ไปจนถึงขั้นตอนการผลิตที่ต้องใช้โปรแกรม CAM เข้าช่วย ทั้งยังต้องการให้การตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดาย เพื่อลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็นลง ทั้งยังช่วยให้วิศวกรที่ทำหน้าที่ดีไซน์ชิ้นส่วนต่างๆ สะดวกในการหาข้อมูล และนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้เป็นประโยชน์ในการดีไซน์ได้ด้วย
.
Teamcenter เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้การทำงานของทีม Hagleitner ราบรื่นขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การมีคลัง library ที่เก็บข้อมูลชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวโปรดักส์ไว้ให้ดีไซเนอร์ใช้งานต่อได้ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ซึ่งเมื่อนำ Teamcenter เข้ามาใช้ ช่วยให้ทีมงานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย และนำข้อมูลมาใช้ระหว่างกระบวนการ Product Development ได้สะดวก
.
เมื่อทีม Hagleitner เปลี่ยนมาใช้ระบบของ Teamcenter ในการทำงาน พบว่า ระบบดังกล่าวเปลี่ยนทิศทางการออกแบบโปรดักส์ของ Hagleitner ไปได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้ทีม Hagleitner เลือกใช้ Teamcenter ก็เพราะเป็นโปรแกรมที่ช่วยให้สมาชิกในทีมเข้าถึงข้อมูลที่ต้องใช้ในการทำงานได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ข้อมูลในส่วนงานดีไซน์ ไปจนถึงส่วนงานผลิต อีกทั้งข้อมูลเหล่านั้นยังมีเหตุผลรองรับ เชื่อมั่นได้ในเรื่องความถูกต้อง
.
ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ Teamcenter ยังช่วยให้ทีม Hagleitner สามารถวางแผนการพัฒนาโปรดักส์ได้อย่างราบรื่น โดยมีข้อมูลคอยซัพพอร์ตตลอดเวลา ทั้งยังส่งผลให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของ Product Line ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์เครื่องจ่ายที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยลดต้นทุนในการผลิตได้ด้วย
.
ในอนาคต การใช้ซอฟต์แวร์ร่วมกับองค์กรภายนอก จะเป็นไปในลักษณะของการดึงข้อมูลขององค์กรที่มีการอัพเดทอย่างต่อเนื่อง มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาการใช้ Tooling ต่างๆ ได้ในอนาคต เพราะสามารถดึงเอาข้อมูลด้านการผลิตที่มีการเก็บรวบรวมไว้อย่างเป็นสัดส่วนใน Teamcenter ออกมาใช้ประโยชน์ได้นั่นเอง
.
นับว่า Teamcenter ช่วยให้เกิดการบริหารและจัดการกับชิ้นส่วนต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบ จนนำข้อมูลมาใช้งานต่อได้สะดวก ซึ่งนับว่าช่วยลดขั้นตอนการออกแบบ และลดเวลาการทำงานไปได้พอสมควร ส่งผลให้ทีม Hagleitner สามารถนำเวลาที่เหลือจากการออกแบบ ไปพัฒนาโปรดักส์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ขึ้นได้นั่นเอง
ติดต่อขอใบเสนอราคา, DEMO หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
02-079-1814 กด 1
inbox : http://m.me/HSSTfanpage
LINE@: https://line.me/R/ti/p/@vti0035r
https://hitachisunway-thailand.co.th